ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีลีกดัตช์ หรือ นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีจากลีกฮอลแลนด์ โดยส่วนมากแล้ว ที่สุดจะก้าวไปอยู่ตามลีกชั้นนำทั่วภาคพื้นยุโรปมากมาย ที่สำคัญ หากได้รับการการันตีจากตำแหน่งนี้แล้ว ชื่อเสียงแต่ละคนเกือบทั้งหมด ได้รับการยอมรับว่า เป็นดาวเตะระดับแนวหน้าแทบทั้งสิ้น จะมีใครมาลองมาติดตามกันเลยพี่น้อง
หัวข้อแนะนำ ZILLA SPORT
สุดยอดแข้งระดับโลกต้องเป็น นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีลีกดัตช์
เปิดสถิติที่ได้รับเงินรางวัลของแข้งชาว อัศวินสีส้ม ไม่ว่าใครจะมาค้าแข้งทีมชาติไหนก็ตาม เนื้อหอม ฟอร์มเล่นยอดเยี่ยมที่หลายทีมให้ความสนใจอยากจะคว้าตัวไปร่วมทีม กริ่นขนาดนี้มาลุยกันเลยว่ามีใครบ้าง
ธีโอ แยนเซ่น (เอฟซี ทเวนเต้)
ฤดูกาลรับรางวัล : 2010-11
หลังจากใช้เวลา 10 ปีในการเป็นผู้เล่นให้กับวิเทสส์ แยนเซ่น ก็ย้ายมาร่วมทัพทเวเต้ในปี 2008 ก่อนจะสามารถพาทีมทเวเต้ ผงาดขึ้นเป็นแชมป์ลีกฮอลแลนด์ได้สำเร็จในปี 2009-10 แต่นั่นไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีที่สุดของเขา เพราะปีต่อมาต่างหากที่ฟอร์มของเขายังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ซัดได้ 20 ประตู จากการลงเล่น 46 นัด กลายเป็นดาวยิงสูงสุดของทีมและเป็นที่รักของแฟนบอลเป็นอย่างมาก
แต่ในฤดูกาลที่ได้รับรางวัล เขาพาทีมป้องกันแชมป์เอาไว้ไม่ได้ เป็นเพียงแค่รองแชมป์ต่อจากอาแจ๊กซ์ ก่อนที่จะถูกอาแจ๊กซ์ นั่นแหละดูดไปร่วมงานด้วยในปีต่อมา
แยน แฟร์ต็องเก้น (อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม)
ฤดูกาลรับรางวัล : 2011-12
เขาคือเด็กฝึกที่อาแจ๊กซ์ ภาคภูมิใจที่ปั้นขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2006 และใช้เวลา 6 ปี ก่อนที่จะพุ่งขึ้นมาเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกฮอลแลนด์ ซึ่งเขาโดดเด่นขึ้นมาแบบชัดเจน ภายหลังจากที่จอห์น ไฮติงก้า ย้ายออกจากทีมไป เขาโดดเด่นมากภายใต้โค้ชอย่างมาร์ติน โยน
ก่อนที่จะมาถึงยุคของแฟร้งค์ เดอ บัวร์ ที่ตัดสินใจมอบตำแหน่งกัปตันทีมให้แก่เขา ซึ่งล่าสุด เขาเพิ่งย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ของเบนฟิก้า หลังจากสิ้นสุดการเล่นให้กับสเปอร์สนั่นเอง
วินฟรีด โบนี่ (วิเทสส์)
ฤดูกาลรับรางวัล : 2012-13
ย้ายมาจากสปาร์ต้า ปราก มาเป็นดาวยิงคนสำคัญให้กับ วิเทสส์ และยิง 58 ประตูจาก 77 นัดให้กับสโมสร โดยเพียงปีแรกที่เขาย้ายมาสู่วิเทสส์ ก็ผลิตผลงานเอาไว้ได้ถึง 12 ประตูทันที ส่วนในปีที่เขารับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฮอลแลนด์ เขาจบฤดูกาลด้วยการยิงได้มากถึง 31 ประตู จากการลงเล่น 30 นัด และวิเทสส์เข้าป้ายด้วยอันดับ 4 ในฤดูกาลนั้น
ก่อนจะย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกร่วมกับทีมสวอนซี และยิงประตูได้อีก 35 ประตู จากการเล่น 70 นัด ก่อนจะก้าวไปเล่นกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ที่เอติฮัต เขาเป็นได้แค่ตัวสำรองเท่านั้น
ดาเลย์ บลินด์ (อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม)
ฤดูกาลรับรางวัล : 2013-14
เขารับบทบาทเป็นมิดฟิลด์ตัวรับให้อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัมในฤดูกาล 2013-14 และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของแฟร้งค์ เดอ บัวร์ จนคว้าแชมป์ลีกดัตช์ได้ถึง 4 ปีติดต่อกัน แม้ว่าจะลงเล่นเพียง 29 นัด และยิงได้ 1 ประตู แต่ความโดดเด่นที่เหนือชั้นในการลงเล่นแต่ละเกม ถือว่าเข้าตากรรมการ เพราะบ่งบอกถึงความฉลาดและทักษะในเชิงลูกหนังที่ยอดเยี่ยม
จนกระทั่งถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมงานด้วย และเพิ่งจะย้ายกลับมาสู่อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม อีกครั้งในปี 2018 และก็สามารถคว้าแชมป์ลีกดัตช์ร่วมกับทีมได้อีกครั้ง
จินี่ ไวจ์นัลดุม (พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น)
ฤดูกาลรับรางวัล : 2014-15
กับบทบาทกัปตันทีมของพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เขาสามารถพาทีมกลับมาผงาดคว้าแชมป์ฮอลแลนด์ได้อีกครั้ง นับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งเขาเข้ารับบทบาทจอมทัพของทีมแทนที่การจากไปของ เควิน สตรูทมัน และ มาร์ค ฟาน บอมเมล ที่ลาจากทีมไป ซึ่งเขามีส่วนทั้งการยิง และ แอสซิสต์ ได้อย่างโดดเด่น โดยมีผลงานร่วมกับพีเอสวี เอาไว้ที่การซัดได้ 56 ประตู จากการเล่น 156 นัด
ก่อนจะอำลาทีมไปร่วมทัพนิวคาสเซิ่ล ในฤดูกาล 2015-16 แม้ว่าทีมสาลิกาดงจะตกชั้น แต่ผลงานส่วนตัวของเขาคือดาวซัลโวประจำทีมซึ่งยิงได้ทั้งสิ้น 11 ประตู ก่อนที่เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ประทับใจการเล่นของเขาจะดึงตัวไปร่วมทัพลิเวอร์พูล จนกลายเป็นกำลังหลักให้ทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกและพรีเมียร์ลีกได้จนถึงปัจจุบัน
ครบเครื่องเรื่องฟุตบอล ต่างประเทศ ทุกลีกติดตามได้ที่ EblogSport อยากติดตาม ข่าวบอล ลีกดัง 5 ลีก ทุกคู่ ทุกมุม ลีกเล็ก ลีกใหญ่ ได้ที่นี่