ทรีโอ ฟาน เดอ เบค,ป๊อกบา,บรูโน่ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน 41 ประตู จากการลงสนาม 175 เกม คือสิ่งที่บอกเราอย่างชัดเจนว่า ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค คือกองกลางที่มีธรรมชาติของการเล่นเกมรุกมากกว่าเกมรับ
นับเฉพาะฤดูกาลที่แล้ว ดาวเตะทีมชาติฮอลแลนด์ สังหารประตูให้ อาแจ็กซ์ 10 ประตู พร้อมถวายพานให้เพื่อนถล่มตาข่ายอีก 11 ครั้ง มันโดดเด่นจนถึงขั้นที่ทำให้เขาหวิดเก็บข้าวของย้ายไป เรอัล มาดริด อยู่รอมร่อ ก่อนที่โลกทั้งใบจะต้องหยุดชะงักกับหายนะ โควิด-19
ชะตากรรม นำพา ฟาน เดอ เบค มาลงเอยที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยสัญญายาว 5 ปี ที่แฟนๆ ต่างก็หวังว่าจะให้ผลตอบแทนกลับมาอย่างคุ้มค่า มิดฟิลด์วัย 23 กำลังจะเจอบทพิสูจน์ที่เข้มข้นที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ที่จะทำให้ข่าวของเขากับลูกสาว เดนนิส เบิร์กแคมป์ กลายเป็นเรื่องที่จืดชืดไปเลย
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ไม่ใช่ชื่อของแข้งโนเนมที่ไหน เขาไม่ใช่ คอสตาส ซิมิกาส ที่ยินดีมานั่งเป็นตัวสำรอง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไปก่อนแบบเจียมเนื้อเจียมตัว ฟาน เดอ เบค คือแข้งเบอร์ใหญ่! และไม่ได้คาดหวังถึงการเข้ามาเพื่อนั่งเป็นตัวสำรองของใคร – ไม่แม้กระทั่ง ปอล ป๊อกบา หรือ บรูโน่ เฟร์นานเดซ
ประวัติ ฟาน เดอ เบค น่าสนใจขนาดไหน
หากจัดทีมโลกสวยกันแบบไม่คิดมาก เราย่อมอยากเห็นซูเปอร์สตาร์ทุกตัวลงสนามพร้อมกัน แต่คำถามก็คือ มันจะเป็นไปได้เหรอ ? ที่ ฟาน เดอ เบค , ป๊อกบา และ บรูโน่ จะลงสนามกันพร้อมหน้าโดยไม่มีใครโดนตัดชื่อออกจากตำแหน่งตัวจริงสักคน ฟาน เดอ เบค อาจมีพรสวรรค์ในการเล่นที่หลากหลาย แต่โดยสัญชาติญาณแล้ว เขาคือคนที่มีหัวพุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียวเหมือนกัน การยิงประตูและแอสซิสต์คือเรื่องปกติสำหรับเขา
ระบบการเล่นของ โซลชาร์ ส่วนใหญ่แล้วมักยึดใน 4-2-3-1 และถ้าเรามองจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ มันไม่มีทางที่เขาจะดร็อปแข้งฟอร์มกระฉูดอย่าง บรูโน่ เป็นตัวสำรองอย่างแน่นอน
หากยังยึดในแนวทางเดิม และไม่พร้อมที่จะดร็อปใครเลย มันก็มีความเป็นไปได้ว่าดาวเตะเลือด “กังหันลม” จะได้ยืนเคียงข้างกับ ป๊อกบา ในแนวลึก ไม่มีใครกังขาเรื่องศักยภาพเกมรุก แต่สิ่งที่แฟนๆ กังวลมากกว่าในระบบนี้ก็คือคุณภาพการเล่นเกมรับที่ย่อมไม่ดีเท่านักเตะอย่าง เนมานย่า มาติช , สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ หรือกระทั่ง เฟร็ด
ปัญหาของแมนยูถ้ามองผ่านๆคือ
มองเผินๆ แล้ว ทุกคนต่างก็กลัว แมนฯ ยู เสียสมดุลในเกมไป และดูเป็นการจัดทีมแบบเดียวกับที่เด็กมัธยมชอบจัดลงบนหน้ากระดาษในระหว่างชั้นเรียน แต่ของง่ายๆ แบบนี้ บางทีมันก็อาจเป็นคำตอบที่ใช่มากกว่าที่หลายๆ คนคิด
ฟาน เดอ เบค อาจไม่ใช่กองกลางเน้นเกมรับจ๋า แต่เขาไม่ใช่นักเตะในแบบที่จะถอดใจเดินก้มหน้าเซื่องๆ ในเวลาที่เสียบอล อันที่จริงแล้ว ค่าเฉลี่ยของเขาในการแท็คเกิ้ลเมื่อซีซั่นที่แล้วกับ อาแจ็กซ์ อยู่ที่ 2.2 ครั้ง ต่อเกม ซึ่งแทบไม่ต่างอะไรกับ มาติช ที่ทำค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.6 ครั้ง ต่อแมตช์
แม้จะมีพรสวรรค์ แต่ ฟาน เดอ เบค เป็นแข้งในแบบฉบับ Hard Worker เขาทำงานหนักกับการเลือกยืนในตำแหน่งที่ถูกต้องในยามที่ไม่มีบอล เขาฉลาดกับการเลือกจังหวะเข้าบอลให้ถูกที่ถูกทางโดยไม่จำเป็นต้องเล่นหนัก – และทักษะการผ่านบอลอันแม่นยำของเขา ก็น่าจะทำให้การเซตเกมจากแนวลึกของ “ปีศาจแดง” เป็นโล้เป็นพายมากกว่าเมื่อฤดูกาลที่แล้วเยอะ
ด้วยคุณสมบัตินี้ ฟาน เดอ เบค จะมีค่าเหมือน “ทองคำ” ในยามที่ ยูไนเต็ด ต้องเจอกับคู่แข่งรองบ่อน ที่ใช้แท็คติกถอยตั้งรับลึก ซึ่งจะมีราวๆ 12-13 ทีมเป็นอย่างน้อย
ดูขุนกำลังผีแดง ณ เวลานี้
หากกวาดสายตาไปที่ทีม พรีเมียร์ลีก ตอนนี้ เราก็จะเห็นยักษ์ใหญ่อยู่แค่ 5-6 ทีม ที่มีศักยภาพจะครองเกมกดใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างจริงจัง ซึ่งในกรณีนั้น โซลชาร์ ก็สามารถเลือกดร็อปกองกลางคนใดคนหนึ่ง แล้วใส่มิดฟิลด์ตัวรับเพื่อความปลอดภัยก็ยังได้
สามประสานแดนกลางยังขาดหายอะไรอยู่
อีกแนวทางที่น่าสนใจก็คือ การเลือกตัดแนวรุก 3 ประสานคนใดคนหนึ่งออก แล้วปรับมาให้ มาติช ยืนคุมเป็นตัวรับ , ขยับ ป๊อกบา ถ่างไปทางซ้ายเหมือนตอนเล่นให้ ยูเวนตุส และให้ ฟาน เดอ เบค รับผิดชอบฝั่งขวา พร้อมกับดัน บรูโน่ ขึ้นไปยืนจอมทัพเบอร์ 10 เต็มๆ โดยมี แรชฟอร์ด กับ มาร์กซิยาล จับคู่ถล่มประตู
ไม่ว่าจะเป็นในแนวทางใด การเข้ามาของ ฟาน เดอ เบค ก็ย่อมทำให้รูปแบบการเล่นของ “ปีศาจแดง” มีรสชาติที่แตกต่างมากขึ้น และการจะฟันธงว่าระบบใดที่ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน มันก็ดูจะเป็นการด่วนตัดสินที่เกินไปหน่อย
แนวทางการเล่นมิดฟิลด์ 3 คน แบบไม่มีกองกลางตัวรับธรรมชาติ มีให้เห็นมาแล้วก็เยอะ!
- โรดรี้ ก็ไม่ใช่ตัวรับสไตล์ที่ Aggressive ขนาดนั้น แต่เขาก็เล่นกับ แมนฯ ซิตี้ ได้
- ลิเวอร์พูล ก่อนมี ฟาบินโญ่ ก็เคยใช้งาน เอ็มเร่ ชาน และ จีนี่ ไวจ์นัลดุม ได้ดีในรูปแบบช่วยกันเพรซซิ่ง แม้กระทั่ง เฮนเดอร์สัน ที่จริงๆ แล้ว ก็ไม่ใช่ตัวรับธรรมชาติเช่นกัน
- บาเยิร์น มิวนิค ของ ฮานซี่ ฟลิ๊คส์ ในช่วงโค้งท้ายๆ ก็ใช้ ติอาโก้ ยืนคู่กับ โกเร็ตซ์ก้า แบบไม่เคอะเขิน
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค จะเล่นได้หรือไม่ได้ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าระบบของทีมนั้นรองรับการเล่นของเขามากแค่ไหน และองค์ประกอบรอบตัวเขาได้ช่วยให้เขาเล่นง่ายขึ้นกว่าเดิมหรือไม่
ทุกอย่าง…..อยู่ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ว่าเขาจะเลือกเล่นแบบไหน , แมนฯ ยู จะเน้นการครอบครองบอลมากขึ้นหรือไม่ , จะเพรสคู่แข่งแค่ไหน หรือจะเลือกใส่กองกลางตัวรับลงไป ? มันก็คงไม่มีอะไรที่ผิด
เมื่อตัดสินใจเลือกแล้ว มันก็ถึงคราวที่แฟนๆ ต้องลุ้นว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โฉมใหม่ในฤดูกาล 2020-21 จะเปล่งประกายออกมาได้เต็มศักยภาพ และจุดเด่นของ ฟาน เดอ เบค ออกมาได้เต็มสูบ อย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่ครับ
ผ่านไแล้วครับสำหรับ ข่าวบอลต่างประเทศ แต่ถ้าหากท่านอยากจะเล่นแทงบอลออนไลน์ เราก็อยากจะแนะนำเว็บบอลโปรโมชั่นดี โอนเงินเร็ว ไม่ต้องย้ายเงินอยากเล่นต้องเลือก sbo รับรองไม่ผิดหวัง มีคอมมิชชั่นทุกเดือน