บั้นท้าย ของ อาซาร์ ความแตกต่างที่สร้างเวิลด์คลาสส์ ในศึก พรีเมียร์ลีก “คุณก็รู้น่ะ ผมค่อนข้างตัวเล็ก ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องดีเวลาที่ผมต้องดวล กับ คู่แข่งตัวใหญ่ๆ มันยากที่พวกเขาจะพลิกตัวประกบอย่างรวดเร็ว”
นั่นไม่ใช่ความจริงที่แปลกใหม่อะไร และ เอแด็น อาซาร์ ก็ไม่ใช่คนแรกที่เอาความได้เปรียบเรื่องรูปร่างไซส์มินิ มาใช้เป็นจุดแข็งเล่นงานคู่ต่อสู้ของเขา
ด้วยลีลาอันสวยงาม ปราดเปรียว เฉียบขาดทั้งการจ่ายและการจบ! นั่นทำให้เขาสถานปนาตัวเองกลายเป็นแข้งระดับ เวิลด์คลาสส์ และเป็นที่ถูกอกถูกใจของ ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือของ เรอัล มาดริด ยิ่งนัก
ก็น่าแปลกใจที่ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยม ไม่มีชื่อติดเป็น 1 ในผู้เล่นยอดเยี่ยม พีเอฟเอ ในครั้งล่าสุดนี้ แต่นั่นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นอัจฉริยะของเขา
“เดอะ แบก” ที่ เชลซี ไม่ได้มีให้ใช้งานอย่างจริงจังมานานแล้ว
สถิติ 16 ประตู กับอีก 13 แอสซิสต์ ในเวที พรีเมียร์ลีก (นับก่อนพบ แมนฯ ยู) นั่นทำให้ อาซาร์ คือผู้เล่นที่มีส่วนร่วมกับการยิงประตูเหนือกว่าผู้เล่นทุกคนในลีก
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง คือเบอร์ 2 ที่ตามมาด้วยสถิติ 17 ประตู กับ 10 แอสซิสต์ ต่อด้วย เลรอย ซาเน่ ที่ 10 ประตู และ 10 แอสซิสต์
ในอีกทางหนึ่งก็คือ อาซาร์ มีส่วนร่วมกับประตูของ เชลซี ในซีซั่นนี้สูงถึง 49 เปอร์เซ็นต์ โดยสร้างสรรค์โอกาสการทำประตูไปถึง 73 ครั้ง เป็นรองแค่โคตรแข้งอย่าง ลีโอ เมสซี่ เพียงแค่ 1 หน
ด้วยส่วนสูง 5 ฟุต 7 –- อาซาร์ ก็ตัวเล็กเหมือนพ่อค้าแข้งอีกหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็น มาราโดน่า , เมสซี่ , โซล่า , จูนินโญ่ , โอเว่น และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่ประเด็นที่เราจะเจาะลงลึกตามหัวข้อในวันนี้ มันทำให้อดีตดาวเตะของ ลีลล์ มีจุดที่แตกต่าง ไม่เหมือนนักเตะเหล่านี้เลยเสียทีเดียว
อาซาร์ ไม่ได้เป็นแข้งตัวเล็กแต่เปราะบางเหมือนพ่อค้าแข้งตัวจิ๋วคนอื่นๆ – เขาหนัก 76 กิโลกรัม และมีมวลกล้ามเนื้อที่หนาแน่น ซึ่งได้ทำให้เขามีค่าเฉลี่ยความแข็งแกร่งเหนือกว่าพวกฟูลแบ็คใน พรีเมียร์ลีก เสียอีก
จิม เพท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องสรีรศาสตร์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “สิ่งที่ทำให้ อาซาร์ ต่างจากผู้เล่นตัวเล็กคนอื่นๆ ก็คือ ร่างกายเขามีมวลกล้ามเนื้อแน่นหนามาก โดยเฉพาะท่อนล่างไล่ตั้งแต่บั้นท้ายลงไป เพราะถ้าเขาตัวเบากว่านี้หรือบางกว่านี้ มันคงง่ายต่อกองหลังที่จะคว่ำเขา”
เท่านั้นยังไม่พอ! เพท ยังกล่าวต่อด้วยว่าลำตัวของ อาซาร์ มีอัตราส่วนที่ค่อนข้างยาวเมื่อเทียบกับช่วงขา (ที่สั้นกว่าปกติ) ซึ่งทำให้เขาควบคุมสมดุลร่างกายได้ดีกว่าคนอื่นๆ
เพท กล่าวว่าด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ เมื่อรวมกับช่วงขาของเจ้าตัวที่ถูกฟิตให้แข็งแกร่งสุดขีด นั่นคือคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับ มาราโดน่า หรือ เมสซี่ เป็นอย่างยิ่ง
จังหวะก้าวของ อาซาร์ นั้นถี่กว่าผู้เล่นทั่วไป เห็นได้จากจังหวะที่เจ้าตัวดวลกับ แมทธิว โลวตัน แบ็คของ เบิร์นลี่ย์ ที่เขาโยกซ้ายโยกขวา 3 จังหวะ
ในช่วง 6 วินาทีสั้นๆ นี้ อาซาร์ สาวเท้าแตะบอลไปถึง 11 ครั้ง ก่อนจะเลื้อยผ่าน โลวตัน ไปชิลๆ
บางที…..สิ่งเดียวที่ มาดริด และ ซีดาน จะกังวลก็คือ ประสิทธิภาพในการสังหารประตูของ อาซาร์ ว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวตัวพ่อของวงการได้หรือไม่
ซาร์รี่ กุนซือ “สิงห์บลูส์” เคยท้าทายให้ อาซาร์ ยิงแตะหลัก 40 ประตูต่อซีซั่น โดยมีความพยายามปรับให้เจ้าตัวไปยืนเป็นหน้าเป้า แต่มันก็ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จ
“ผมไม่ใช่นักเตะที่เห็นแก่ตัวเลยซะทีเดียว คนอาจมองวิธีการเล่นของผมว่ามีจุดอ่อนต่อการก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ผู้จัดการทีมอย่าง มูรินโญ่ , คอนเต้ และ ซาร์รี่ ต่างอยากให้ผมยิง 40-50 ประตูต่อซีซั่น แต่ผมจะทำได้มั้ย ? ผมก็ไม่แน่ใจนะ ผมรู้แค่ว่าผมรู้จักตัวเองดี และผมไม่คิดว่าผมจะทำแบบนั้นได้หรอก”
นั่นคือความรู้สึกที่บ่งบอกถึงตัวตนของ อาซาร์ ทั้งหมด เขามีดีในแบบของเขา และจะใช้สัญชาติญาณถอยกลับมาล้วงบอล พยายามทำเกมสร้างสรรค์โอกาสอยู่เสมอ
จิตวิญญาณของ อาซาร์ มีความเป็นจอมสร้างสรรค์มากกว่าความเป็น “เพชฌฆาต” – ศิลปินที่ไม่มีทางจะเป็นนักล่า
อาซาร์ อาจไม่ใช่ เมสซี่ เขาอาจไม่มีวันเป็นเหมือน โรนัลโด้ และคงไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่จะถูกจารึกในระดับสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ถึงกระนั้น อาซาร์ จะเป็นจอมทัพตูดใหญ่ ที่ถูกจดจำเสมอในฐานะแข้งที่สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งของ เชลซี และทุกคนจะคิดถึงเขาจับใจในวันที่เขาเลือกโบกมืออำลาถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์
คิดถึงแบบจับใจเลยล่ะครับ